วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

เพลงChut Noon Ae By Kang Sung Min

ดูภาพขนาดใหญ่






เพลงChut Noon Ae By Kang Sung Min  
ทำไมหัวใจของฉันเต้นแรงจังเลย
ทำไมความคิดของฉันจึงเลวร้ายเหลือเกิน
ฉันกำลังจะตาย
วันแล้ววันเล่า
ไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะจบลงสักที
ทำไมฉันถึงเดินทางไปโดยไม่มีจุดหมายที่แน่นอนเช่นนี้
ทำไมฉันจึงลังเลที่จะพูด ในสิ่งที่ฉันอยากจะพูด
ไม่ว่าสิ่งที่เป็นความรัก โชคชะตา  เหตุการณ์ในชีวิตแม้ ...
จะจางหายไปทั้งหมดในวันข้างหน้าของการจากลา
ฉันกลัวที่จะเสียคุณไป
กลัวที่จะเดินผ่านไปโดยไม่มีคุณ
โปรดอย่าปฏิเสธหัวใจของฉัน
ฉันถูกทำลายด้วยแรกพบของคุณ
นี้หัวใจของฉันทำอะไรไม่ถูกเลย
เหมือนคนโง่เง่า
ทำให้คนร้องไห้คร่ำครวญ
ทำไมมันจึงจะเริ่มค่อยๆจางหายไป
ทำไมหัวใจของฉันจึงทรมานมากขึ้น
 น้ำตาล่วงไหลในขณะที่ฉันถอนหายใจลึกอย่างเจ็บปวดรวดร้าว
มัน ก็ไร้ประโยชน์ในวันข้างหน้าของการจากลา
คุณเป็นเหมือนสายลมชั่วคราว ผ่านไปจากฉันโดยไม่มีร่องรอย
โปรดอย่าปฏิเสธหัวใจของฉัน
ฉันถูกทำลายด้วยแรกพบของคุณ
นี้หัวใจของฉันทำอะไรไม่ถูกเลยถ้าหิมะนี้เคยหยุด สิ่งที่เป็นความทรงจำ
หัวใจของฉันก็สามารถสงบลงได้
จะกระจายเหมือนหิมะลอย
ความทรงจำของฉัน
คุณจะล่องลอยไปไม่กลับเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
ฉันจะจำมันไว้ในชีวิตต่อไปได้หรือไม่
ฉันถูกทำลายด้วยแรกพบของคุณ เหมือนคนโง่เง่าหัวใจของฉันร่ำร้อง
ทำให้คนร้องไห้
เมื่อเวลาผ่านไป
หัวใจของฉันก็สามารถสงบลงได้ มันจะถูกฝังอยู่ในหิมะลึก
หัวใจของฉันยังคงเผาไหม้ด้วยความปรารถนา
ความทรงจำของฉันกับคุณ
จะเก็บไว้จนลมหายใจสุดท้ายของฉัน
มันจะถูกแกะสลักลึกลงไปในหัวใจของฉัน



วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

THE SNOW QUEEN ลิขิตรัก...ละลายใจ

        










    ฮัน แทวุง เด็กหนุ่มอัจฉริยะที่มีความสามารถเป็นเลิศทางด้านคณิตศาสตร์ เข้ามาเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมกวาฮัก ทำให้ คิม จองกิว รู้สึกว่าเขาเจอคู่แข่งคนสำคัญด้านการเรียนเสียแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาทั้ง อาจารย์ และ เพื่อนนักเรียน ต่างยอมรับในความปราดเปรื่องทางด้านคณิตศาสตร์ของเขา แต่พอ แทวุง เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในโรงเรียนและฉายแววความโดดเด่นทางด้านนี้ขึ้นมา ทำให้ความสำคัญของ จองกิว ลดลงอย่างเห็นได้ชัด  หลังจากนั้น หากเป็นเรื่องของวิชาเรียนแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในชั้นเรียนใดก็ตาม จองกิว จะไม่ยอมเป็นรองให้กับ แทวุง เลย แต่ในที่สุดด้วยความจริงใจของ แทวุง และการเป็นคนตรงไปตรงมาของ จองกิว ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรักกัน ทั้งคู่ต่างยอมรับในความสามารถของกันและกัน  รู้สึกสนุกสนานยามได้เรียนและแบ่งปันความสุขจากการเรียนคณิตศาสตร์ร่วมกันวันหนึ่ง แทวุง ได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังร้องขอซื้อหนังสือเรื่อง เทพธิดาหิมะ ขณะที่เขากำลังมองดูเหตุการณ์อยู่ มีนักเรียนหญิงวิ่งเข้าไปเพื่อที่จะทำร้ายและแย่งเงินจากเด็กหญิงคนนั้น แทวุง เข้าไปช่วยไว้ทันทำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน ต่อมาเด็กหญิงหนีออกจากบ้าน เธอต้องการเดินทางไปที่ เลพแลนด์  ดินแดนที่เธอรู้จักในเทพนิยายเรื่อง เทพธิดาหิมะ ที่นั่นเด็กหญิงหวังว่าจะได้พบกับแม่ของเธอ  ด้วยความช่วยเหลือและมิตรภาพที่ แทวุง มีให้แก่เด็กหญิงที่แสนจะโดดเดี่ยว ทำให้เธอตกหลุมรักพี่ชายคนนี้ แม้ว่าจะไม่รู้จักชื่อของกันและกันก็ตาม 
แทวุง นัดเด็กหญิงไปพบกันที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง เพื่อนำหนังสือ เทพธิดาหิมะ ที่เขาพยายามเสาะหามาให้แก่เด็กหญิงคนนั้น  แต่ แทวุง กลับไม่ได้ไปตามสัญญา เนื่องจากเขาได้รับข่าวร้ายว่า จองกิว ฆ่าตัวตายหลังจากที่แพ้ แทวุง ในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิก  แทวุง เสียใจมากกับการสูญเสียในครั้งนี้ และรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้เพื่อนรักต้องจบชีวิต เขาตัดสินใจหันหลังให้กับการเรียน แล้วไปใช้ชีวิตอยู่ในค่ายมวยแห่งหนึ่ง โดยเปลี่ยนชื่อเป็น ฮัน ด๊กกู

8 ปีผ่านไป ฮัน ด๊กกู ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายมวยแห่งนั้น ทำหน้าที่เป็นคู่ซ้อมให้กับ ดองพิล นักมวยประจำค่าย  วันหนึ่ง ด๊กกู มาเยี่ยมเพื่อนนักมวยร่วมค่ายที่โรงพยาบาล เขาได้พบกับ คิม โบรา ลูกสาวมหาเศรษฐีที่กำลังอาละวาดใส่หมอและพยาบาลอย่างหนัก แถมยังขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย แทวุง ยื่นมือเข้าช่วยให้เธอสงบสติอารมณ์ลง และยอมรับการรักษาจากหมอโดยดี ด๊กกู จับพลัดจับผลูมาทำงานเป็นคนขับรถส่วนตัวให้กับ โบรา ซึ่งทำให้เขาได้เห็นและเข้าใจว่า โบรา เป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เนื่องจากเธอเจ็บป่วยอย่างทรมานจากอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่เด็ก แถมชีวิตยังขาดความอบอุ่น เนื่องจากแม่ทิ้งเธอและพ่อไปมีครอบครัวใหม่ ทำให้ โบรา จึงประชดชีวิตด้วยการเอาแต่ใจ ใช้เงินเป็นเบี้ย และทำตัวเป็นคุณหนูตัวแสบที่ทุกคนที่อยู่ใกล้ต้องเข็ดขยาด ด๊กกู เล่าเรื่องในอดีตเมื่อ 8 ปีก่อน เกี่ยวกับเด็กสาวที่ต้องการจะไป เลพแลนด์ ให้ โบรา ฟังโดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว เธอ คือ เด็กสาวคนนั้น  โบรา คิดโกรธในใจที่ แทวุง จำตนเองไม่ได้ แต่ก็แอบดีใจลึกๆ ที่เธอได้พบกับพี่ชายใจดีที่เคยช่วยเหลือเธอเมื่อครั้งอดีต  โบราตัดสินใจนัด แทวุง ไปที่สวนสนุกอีกครั้ง เพื่อรำลึกความหลัง แต่ แทวุง กลับผิดนัด โบรา โกรธมากที่เหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม เธอจึงพยายามตัดใจจาก แทวุง และหันไปคบหากับ หมอกึนวู ซึ่งแอบหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบด๊กกู พา โบรา ไปหาหมอที่โรงพยาบาลทำให้เขาเจอกับ เจฮี เพื่อนสมัยเรียนมัธยม ซึ่งมาเป็นหมอฝึกหัดอยู่กับ กึนวู ทำให้เขารู้ว่า โบรา คือน้องสาวแท้ๆ ของ จองกิว  ด้วยความรู้สึกผิดทำให้และกลัวว่าความลับที่ปกปิดมานานจะถูกเปิดเผย ด๊กกู จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นคนขับรถของ โบรา และหลบหน้าไม่พบเธออีกต่อไปโบรา พยายามตามหา ด๊กกู โดยขอให้ จีเฮ ช่วยเหลือจนเธอรู้ว่า แท้จริงแล้ว ด๊กกู คือ ฮัน แทวุง ซึ่งเป็นเพื่อนรักของ จองกิว พี่ชายของเธอ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ จองกิว ต้องเสียชีวิต เรื่องราวรู้ไปถึงหู ประธานคิม พ่อของ โบรา ทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะยิ่งเมื่อรู้ว่า โบรา กับ แทวุง ต่างมีใจให้แก่กัน ประธานคิมไล่ โบรา ออกจากบ้าน  โบรา หนีออกจากบ้านไปใช้ชีวิตอยู่กับ แทวุง ความใกล้ชิดทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งอาการของ โบรา ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เธอไปปรึกษา หมอ กึนวู จึงได้รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน  โบรา ไม่ต้องการให้ แทวุง รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงแสร้งทำเป็นทะเลาะกับ แทวุง ในวันที่เขาขอเธอแต่งงานแทวุง รู้สึกแปลกใจมากที่อยู่ๆ โบรา ก็เปลี่ยนไป เขาสืบจนรู้เรื่องราวทั้งหมด และพา โบรา ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งคล้ายกับ เลพแลนด์ ดินแดนในฝันของเธอ ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
นำแสดงโดย : ฮุนบิน / ซอง ยูริ / อิม จูฮวาน / ยู อินยอง

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เสนอหัวข้อโปรเจ็ก

โทรศัพท์
รศ.ดร.ประสิทธิ์   ทีฆพุฒิ   ประธานสภามนตรี สสภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท.) กล่าวว่า ในระหว่างงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 23-28 สิงหาคม ณ อิมแพค เมืองทองธานี สสวทท. ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดนิทรรศการมนุษย์และสิ่งรอบตัว และหนึ่งใน 4 ของหัวข้อที่นำเสนอ ได้แก่การสร้างจิตสำนึกการป้องกันภัยรอบตัวเรา ในที่นี้ จะได้มีการนำเสนอข้อมูล เรื่อง   ผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือ จากสมาคมพิษวิทยา   เพื่อให้ผู้สนใจนำไปเผย
ปัจจุบันการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สื่อสารสำคัญในชีวิตประจำวันของประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคนทั่วโลก   ซึ่งในประเทศไทยมีผู้ใช้มากกว่า 20 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการใช้โทรศัพท์มือถือมีประโยชน์ทำให้การติดต่อสื่อสารด้วยวาจา พร้อมทั้งการส่งข้อมูลเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ช่วยให้ความเป็นอยู่ของคนไทยและเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการใช้โทรศัพท์มือถือ แนบหูครั้งละนาน ๆ จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยจากการวิจัยของแพทย์นักวิทยาศาสตร์หลายท่าน เตือนว่าผู้ที่ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคได้หลายชนิด อาทิ ปวดศีรษะ มะเร็งสมอง หูอักเสบ มะเร็งเม็ดเลือดขาวและความจำเสื่อม   ฯลฯ   เป็นต้น
ดร.ดนัย   ทิวาเวช กรรมการสมาคมพิษวิทยา และรองเลขาธิการของ สสวทท. กล่าวว่า   ผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมีโดยตรง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คือ ในระยะสั้น จะมีอาการปวดหู ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว   มึนงง   ขาดสมาธิ และเกิดความเครียดนอนไม่หลับ   สำหรับผลในระยะยาว อาจทำให้เกิดโรคความจำเสื่อม โรคมะเร็งสมอง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
ข้อแนะนำสำหรับประชาชนหรือผู้บริโภค เพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายในอนาคต คือ   1 ) ควรใช้แต่ละครั้งให้น้อยลง 2) ควรใช้อุปกรณ์หูฟังทุกครั้งที่ใช้ เพราะจะทำให้ได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าน้อยลง   3) หลีกเลี่ยงการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ เพราะคลื่นแม่เล็กไฟฟ้าจะผ่านกะโหลกศีรษะของเด็กเข้าสู่เยื่อสมองได้ลึกกว่าของผู้ใหญ่   4) หลีกเลี่ยงใช้ในที่มีสัญญาคลื่นโทรศัพท์จากสถานีส่งต่ำ เพราะผู้ใช้จะได้รับปริมาณคลื่นที่ส่งออกมาจากโทรศัพท์มือถือสูงกว่าปกติ   5) หลีกเลี่ยงการใช้ในขณะขับรถ   เพราะทำให้ขาดสมาธิ จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ 6) หลีกเลี่ยงการใช้ในขณะเติมน้ำมันรถยนต์   เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ได้ 7) ควรปิดมือถือก่อนเข้าไปในบริเวณที่มีการรับจ่ายน้ำมันและก๊าซ   และการขนย้ายเชื้อเพลิงหรือสารเคมี
ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐบาลที่รับผิดชอบ ควรจะมีการให้ข้อมูลข่าวสารทางวิชาการที่ถูกต้อง และทันเหตุการณ์กับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจ ทำให้หมดความสงสัย และการตื่นตระหนก และสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์มือถือ รวมทั้งมีมาตรการควบคุมอันตรายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยมีประสิทธิภาพและมีผลดีขึ้นในอนาคต
สารพิษรอบตัว
รศ.ดร.ประสิทธิ์   ทีฆพุฒิ   ประธานสภามนตรี สสภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท.) กล่าวว่า ในระหว่างงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 23-28 สิงหาคม ณ อิมแพค เมืองทองธานี สสวทท. ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดนิทรรศการมนุษย์และสิ่งรอบตัว และหนึ่งใน 4 ของหัวข้อที่นำเสนอ ได้แก่การสร้างจิตสำนึกการป้องกันภัยรอบตัวเรา ในที่นี้ จะได้มีการนำเสนอข้อมูล เรื่อง สารพิษรอบตัว   จากสมาคมพิษวิทยา   เพื่อให้ผู้สนใจนำไปเผยแพร่ด้วย
สารพิษ มีอยู่ทุกแห่ง คนทุกคนมีโอกาสรับสารพิษอยู่ตลอดเวลา ในปริมาณมากน้อยไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป   ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ เกิดความเคยชิน และขาดความตระหนักถือสารพิษเหล่านี้   ดังนั้นประชาชนควรรู้ ข้อมูลเกี่ยวกับสารพิษที่ปนเปื้อนอยู่ในสิ่งต่าง ๆ เพื่อจะได้ป้องกันตนเองจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น
ดร.ดนัย   ทิวาเวช   กรรมการสมาคมพิษวิทยา และรองเลขาธิการ สสวทท. กล่าวว่า สารพิษนั้นมีอยู่ทุกคนทุกแก่ง และสามารถเข้าสู่ร่างกายของคนเราได้ 3 ทาง คือ 1) การหายใจและการสูดดมเข้าทางจมูก เช่น สารตะกั่ว เบนซิน ควันบุหรี่ สารเคมีกำจัดแมลง   21) การดื่ม   กลืนและกิน เช่น สารหนู แข่แมงดาถ้วย   3) การซึมผ่านทางผิวหนัง เช่นตะกั่ว สารเคมี ซึ่งเมื่อได้รับสารพิษเหล่านี้เข้าไปแล้ว จะเกิดการตอบสนอง   2 แบบ คือ แบบเฉียบพลัน   คือเมื่อได้รับสารจะตรวจพบทันที สามารถแก้ไขอาการหรือป้องกันสาเหตุได้ง่าย   และ แบบเรื้อรัง จะตรวจพบได้เมื่อมีอาการของโรคมากแล้ว จนไม่สามารถแก้ไขอาการ หรือป้องกันสาเหตุได้ เช่น โรคมะเร็ง เป็นต้น
การเกิดโรคมะเร็งมีความซับซ้อนมาก ยังไม่รู้กลไกการเกิดที่แน่นอน ปัจจัยสำคัญโดยทั่วไปของการเกิดโรคมะเร็ง มี 4 ประเภท คือ 1) สารมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหาร เช่น เฮทเทอโรชัยคลิก เอมัน อัลฟ่าท็อกซิน ฯลฯ ซึ่งสารเหล่านี้ก่อปัญหาทางสุขภาพมากที่สุด   2)การติดเชื้อ จากไวรัส   บักเตรี และพยาธิใบไม้ในตับ   3) รังสี เช่น เอกซเรย์ อุลตราไวโอเลท   4) พันธุกรรม เช่นคนในครอบเคยเป็นมะเร็งเต้านม หรือลำไส้ใหญ่ ก็จะมีโอกาสเป็นสูง ข้อมูลทางวิชาการด้านสารก่อมะเร็งนั้นมีมาก   ซึ่งจะเกิดในการประกอบอาหารต่าง ๆ   เช่นประเภทปิ้งย่าง   รมควัน   หมัก   เช่นพวก ไส้กรอก กุนเชียง แฮม   หรือใช้น้ำมันทอดซ้ำ ๆ หลายครั้ง   รวมทั้งในอาหารที่มีลักษณะยืดหยุ่น เช่นลูกชิ้นเด้ง   ขนมหวานลูกกวาดหลากสี   กุ้งแห้งใส่สี   หรือเป็นอาหารที่มีเชื้อรา เช่น ถั่วลิสงบดที่เก็บไว้นาน   นอกจากนี้ยังมีสารที่ปนเปื้อนในอาหาร เช่น ฟอร์มาลีน สารฟอกขาว สารเร่งเนื้อแดง และยาปฏิชีวนะที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ และผงชูรส เป็นต้น
การบริโภคอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษเป็นความจำเป็นที่คนไทยต้องมี แต่ปัจจุบันยังอยู่อีกห่างไกล   เนื่องจากขาดความรับผิดชอบของเกษตรกรผู้ผลิตอาหาร ผู้แปรรูป ผู้ปรุงรสสำเร็จ   และหน่วยงานที่รับผิดชอบ   ดังนั้นจึงควรรู้เท่าทันอันตรายจากสารพิษ   และป้องกันตนเองไม่ให้สัมผัสกับสารพิษ และให้มีจิตสำนึกในการบริโภคตลอดเวลา จึงจะทำให้ทุกคน ปลอดโรคและมีสุขภาพดีตลอดไป
การดื่มชาเขียวในประเทศไทย
รศ.ดร.ประสิทธิ์   ทีฑพุฒิ   ประธานสภามนตรี สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (สสวทท.) กล่าวว่า ปัจจุบันการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่ประชาชนสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะการมีสุขภาพดี ย่อมอยู่ห่างไกลจากโรค   โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกิดจากความเสื่อมของสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน   โรคมะเร็งบางชนิด   ทำนองเดียวกัน ทางการแพทย์ปัจจุบันนิยมการป้องกันการเกิดโรค มากกว่าการรักษา ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ แล้ว ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาล   โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่ต้องใช้ยารักษาแพง และต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ยารักษาโรคมะเร็งเป็นต้น
ดังนั้น จะเห็นแนวโน้มการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกันมากขึ้น   ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีความนิยมขึ้นลงตามกระแส ตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา นิยมผลิตภัณฑ์ที่ผสมใบแปะก๋วย   จะเห็นว่าอะไรต่าง ๆ ก็ใส่ใบแปะก๋วย   แต่ในปีนี้จะเห็นว่า อะไร ๆ ก็ใส่ใบชาเขียว   เครื่องดื่มชาเขียวขณะนี้กำลังเป็นที่นิยม และเพิ่งออกมาสู่ตลาดใหม่ ๆ รวงมทั้งยังมีชาขาวอีกด้วย   โดยจะมีการบรรยายสรรพคุณว่า มีแอนติออกซิเด้นท์ ซึ่งป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด   นอกจากนี้การตลาด และการโฆษณาทำให้การดื่มชาเขียวเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว   ดังนี้ สภาสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (สสวทท.) จึงได้จัดให้มีการเสวนา ในหัวข้อเรื่อง "การดื่มชาเขียวในประเทศไทย" ขึ้น เมื่อเร็ว นี้ (15 ส.ค. 48)   โดยวิทยากรได้นำเสนอพื้นฐานความรู้เรื่องชาเขียว เช่น สารออกฤทธิ์ที่สำคัญในชาเขียว กระบวนการผลิต, ผลกระทบทั้งผลดีและผลเสียต่อร่างกาย   รวมทั้งปริมาณการบริโภคที่เหมาะสม   ที่จะทำให้เกิดผลดีและความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค--จบ--
แพร่ด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มาตรฐานเว็บนักศึกษา

มาตรฐานเว็บนักศึกษา

  • ตั้งชื่อเว็บโดยขึ้นต้นด้วย IL154-ชื่อจริง (ภาษาอังกฤษ)
  • เมนูด้านข้างต้องประกอบด้วย Gadget ต่อไปนี้ คือ ข้อความแนะนำตัว, ลิงก์ และป้ายกำกับ โดยให้ข้อความแนะนำตัวขึ้นเป็นรายการแรก
  • ภายใต้ Gadget ลิงก์ ให้มีลิงก์ของเว็บต่อไปนี้ คือ เว็บอาจารย์, Mediafire, GooleDocs, Ckassmarker
  • แก้ไขโปรไฟล์โดยการใส่ภาพถ่าย 
  • ห้ามโพสต์ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสม
  • การ Copy ภาพและข้อความจากเว็บอื่น  ให้ระบุที่มาและ Copy ลิงก์ของเว็บต้นแหล่งมาไว้ให้ทราบด้วย